ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สถาปัตยกรรมของไมโครคอนโทรลเลอร์

 สถาปัตยกรรมของไมโครคอนโทรลเลอร์

                สถาปัตยกรรมของไมโครคอนโทรลเลอร์แบ่งตามลักษณะการออกแบบการติดต่อประสานงานระหว่างหน่วยประมวลผลกับหน่วยความจำ มี 2 แบบ ดังต่อไปนี้
       1. สถาปัตยกรรมวอนนิวแมนน์ (Von-Newman Architecture) ไมโครคอนโทรลเลอร์ที่ใช้สถาปัตยกรรมนี้หน่วยประมวลผล(CPU) จะติดต่อกับหน่วยความจำผ่านบัสข้อมูลเพียง 8 บิต ทำให้หน่วยประมวลผลไม่สามารถอ่านหรือเขียนข้อมูลกับหน่วยความจำได้ในเวลาเดียวกัน การทำงานจึงค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับสถาปัตยกรรมแบบฮาร์วาร์ด
    

       2.สถาปัตยกรรมฮาร์วาร์ด (Harvard Architecture) ไมโครคอนโทรลเลอร์ที่ใช้สถาปัตยกรรมนี้จะมีบัสข้อมูลสองทาง ส่วนแรกคือหน่วยประมวลผลจะติดต่อกับหน่วยความจำแรมผ่านบัสข้อมูล 8 บิต และส่วนที่สองคือซีพียูจะติดต่อกับหน่วยความจำรอมผ่านบัสข้อมูล12, 14, 16 บิต หน่วยประมวลผลจึงสามารถอ่านและเข้าถึงหน่วยความจำแรมและหน่วยความจำรอมได้ในเวลาเดียวกัน ทำให้กระบวนการทำคำสั่งลดขั้นตอนลง ไมโครคอนโทรลเลอร์จึงทำงานได้เร็วขึ้น



        สถาปัตยกรรมของไมโครคอนโทรลเลอร์แบ่งตามการประมวลผล
1. ไมโครคอนโทรลเลอร์ 8 บิต
2. ไมโครคอนโทรลเลอร์ 12 บิต
3. ไมโครคอนโทรลเลอร์ 14 บิต
4. ไมโครคอนโทรลเลอร์ 16 บิต
5. ไมโครคอนโทรลเลอร์ 32 บิต
6. ไมโครคอนโทรลเลอร์ 64 บิต

            สถาปัตยกรรมของไมโครคอนโทรลเลอร์แบ่งตามบริษัทผู้ผลิต
1. ไมโครคอนโทรลเลอร์ตระกูล PIC (บริษัทผู้ผลิต Microchip ไมโครชิป)
2. ไมโครคอนโทรลเลอร์ตระกูล MCS51 (บริษัทผู้ผลิต Atmel, Phillips)
3. ไมโครคอนโทรลเลอร์ตระกูล AVR (บริษัทผู้ผลิต Atmel)
4. ไมโครคอนโทรลเลอร์ตระกูล ARM7, ARM9
5. ไมโครคอนโทรลเลอร์ตระกูล Basic Stamp (บริษัทผู้ผลิต Parallax)
6. ไมโครคอนโทรลเลอร์ตระกูล PSOC (บริษัทผู้ผลิต CYPRESS)
7. ไมโครคอนโทรลเลอร์ตระกูล MSP (บริษัทผู้ผลิต Texas Instruments)
8. ไมโครคอนโทรลเลอร์ตระกูล 68HC (บริษัทผู้ผลิต MOTOROLA)
9. ไมโครคอนโทรลเลอร์ตระกูล H8 (บริษัทผู้ผลิต Renesas)
10. ไมโครคอนโทรลเลอร์ตระกูล RABBIT
11. ไมโครคอนโทรลเลอร์ตระกูล Z80 (บริษัทผู้ผลิต Zilog)

            นอกจากนี้แล้วในปัจจุบันไมโครคอนโทรลเลอร์ยังได้รับความนิยมนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายมากยยิ่งขึ้น ทำให้บริษัทผู้ผลิตยังมีการพัฒนาประสิทธิภาพและศักยภาพของไมโครคอนโทรลเลอร์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เหมาะกับการนำไปประยุกต์ใช้งานที่หลากหลาย และตอบสนองกับความต้องการที่จะใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เกิดขึ้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.rtc.ac.th/vcharkarn/280661.pdf

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลอด LED หรือ ไดโอดเปล่งแสง

หลอด LED หรือ ไดโอดเปล่งแสง      ไดโอดเปล่งแสง (light-emitting diode) เรียกย่อ ๆ ว่า LED คือ เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำพวกสารกึ่งตัวนำซึ่งสามารถเปล่งแสงออกมาได้แสงที่เปล่งออกมาประกอบด้วยคลื่นความถี่เดียวและเฟสต่อเนื่องกัน ซึ่งต่างกับแสงธรรมดาที่ตาคนมองเห็นโดยหลอด LED สามารถเปล่งแสงได้เมื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และประสิทธิภาพในการให้แสงสว่างก็ยังดีกว่าหลอดไฟขนาดเล็กทั่ว ๆ ไป LED เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่งที่ให้แสงสว่างซึ่งมีหลายขนาดและมีรูปร่างหลายแบบขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานหลอด LED สามารถให้แสงได้หลายๆ ความยาวคลื่น เช่น สามารถให้แสงสีแดง, แสงสีน้ำเงิน, แสงสีเขียว, แสงสีขาว ฯลฯ       โดยทั่วไปมี 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือ LED ชนิดที่ตาคนเห็นได้ กับชนิดที่ตาคนมองไม่เห็นต้องใช้ทรานซิสเตอร์มาเป็นตัวรับแสงแทนตาคน       ปัจจุบันจากความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ ทำให้เทคโนโลยีของ LED ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วตามไปด้วย. LED ได้ถูกพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในด้านสีของแสงที่เปล่งออกมา ไม่ว่าจะเป็นสีแดง ,สีเขียว ,สีส้ม หรือที่ผลิตได้ท้ายสุด และทำให้วงการแอลอีดีพัฒน

ไมโครคอนโทรลเลอร์ Arduino Mega 2560

ไมโครคอนโทรลเลอร์ Arduino Mega 2560        บอร์ด Arduino Mega 2560 จะเหมือนกับ Arduino MEGA ADK ต่างกันตรงที่บนบอร์ดไม่มี USB Host มาให้ การโปรแกรมยังต้องทำผ่านโปรโตคอล UART อยู่ บนบอร์ดใช้ชิปไอซีไมโครคอนโทรเลอร์เบอร์ ATmega2560 ข้อมูลจำเพาะ      1. ชิปไอซีไมโครคอนโทรเลอร์ ATmega2560      2. ใช้แรงดันไฟฟ้า 5V      3. รองรับการจ่ายแรงดันไฟฟ้า (ที่แนะนำ) 7 – 12V      4. รองรับการจ่ายแรงดันไฟฟ้า (ที่จำกัด) 6 – 20V      5. พอร์ต Digital I/O 54 พอร์ต (มี 15 พอร์ต PWM output)      6. พอร์ต Analog Input 16 พอร์ต      7. กระแสไฟฟ้ารวมที่จ่ายได้ในทุกพอร์ต 40mA      8. กระแสไปที่จ่ายได้ในพอร์ต 3.3V 50mA      9. พื้นที่โปรแกรมภายใน 256KB แต่ 8KB ถูกใช้โดย Bootloader      10. พื้นที่แรม 8KB      11. พื้นที่หน่วยความจำถาวร (EEPROM) 4KB      12. ความถี่คริสตัล 16MHz ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.ioxhop.com/

มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (DC Motor)

มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (DC Motor)        มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (Direct current motor) หรือเรียกว่า ดี.ซี มอเตอร์ (D.C. MOTOR) เป็นเครื่องกลไฟฟ้ากระแสตรงที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกลมีทั้งชนิดกระตุ้นฟีลด์จากภายนอก (Separated excited motor) และชนิดกระตุ้นฟีลด์ด้วยตัวเอง (Self excited motor) มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงเป็นต้นกำลังขับที่สำคัญอย่างหนึ่งในโรงงานอุตสาหกรรมเพราะ มีคุณสมบัติที่เด่นในด้านการปรับความเร็วรอบตั้งแต่ความเร็วรอบต่ำสุดไปจนถึงความเร็วรอบสูงสุด นิยมใช้ในโรงงานทอผ้า โรงงานเส้นใยโพลี เอสเตอร์ โรงงานถลุงโลหะ และเป็นต้นกำลังขับในรถไฟฟ้า       หลักการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (Direct current motor) เมื่อแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงเข้าไปในมอเตอร์ ส่วนหนึ่งจะ แปรงถ่านผ่านคอมมิวเตเตอร์เข้าไปในขดลวดอาร์มาเจอร์สร้างสนามแม่เหล็กขึ้น และกระแสไฟฟ้าอีกส่วนหนึ่งจะไหลเข้าไปในขดลวดสนามแม่เหล็ก (Field coil) สร้างขั้วเหนือ-ใต้ขึ้น จนเกิดสนามแม่เหล็ก 2 สนาม ในขณะเดียวกันตามคุณสมบัติของเส้นแรง แม่เหล็กจะไม่ตัดกัน ทิศทางตรงข้ามจะหักล้างกันและทิศทางเดียวจะเสริมแรงกัน ทำให้เกิดแรงบิดในตัวอาร์มาเจอร์ ท